The Cases during the Buddha’s time In the case of Mrs. Jinjamanavika Insulting the Buddha

Abstract

บทความนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาเรื่องราวในอดีตของนางจิญจมาณวิกา 2. เพื่อศึกษาหลักกฎหมายหมิ่นประมาท 3. เพื่อวิเคราะห์ความผิดฐานหมิ่นประมาททั้งในทางแพ่ง ทางอาญา และโทษที่ได้รับ

พบการศึกษาพบว่า 1. นางจิญจมาณวิกาพูดใส่ร้าย ใส่ความพระพุทธเจ้านั้น การพูดหรือการใช้วจีทุจริตนั้น ทำให้บุคคลที่เป็นที่เคารพของสังคมเสียหาย เป็นความผิดทางสังคม และความผิดตามกฏแห่งกรรม 2. กฎหมายหมิ่นประมาทแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ การหมิ่นประมาทด้วยการเขียน (libel) และการพูด (slander) หากมีการกล่าวหาผู้อื่นอย่างผิดๆ ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางการเงินได้ และในบางกรณีอาจมีโทษทางอาญา เช่น การปรับหรือจำคุก ระบบกฎหมายในปัจจุบันยังกำหนดให้ผู้กล่าวหาต้องพิสูจน์ความเท็จของข้อกล่าวหาและความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างสมดุล บทลงโทษในปัจจุบันจึงมุ่งเน้นความยุติธรรมและการคุ้มครองสิทธิของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม 3. ผลทางกฎหมายในยุคปัจจุบันสำหรับกรณีหมิ่นประมาทเช่นของนางจิญจมาณวิกา มีความแตกต่างอย่างมากจากอดีต เนื่องจากระบบกฎหมายได้พัฒนาไปพร้อมกับการให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรม กรณีดังกล่าวในปัจจุบันจะถูกพิจารณาภายใต้กฎหมายหมิ่นประมาทที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องชื่อเสียงของบุคคล โดยยังคำนึงถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น